การศึกษาดูงานและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ณ ประเทศสาธารณรัฐจีน



การศึกษาดูงานและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ณ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ภายใต้โครงการ “Functional Ingredient Study Visit” ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฟังก์ชันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและตัวแทนจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารฟังก์ชันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานทางการศึกษา จำนวน 33 ท่าน เป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตอาหารฟังก์ชัน การเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาวัตถุดิบเชิงสุขภาพ และกระบวนการส่งเสริมนวัตกรรมในระดับประเทศ การเดินทางเยี่ยมชมหน่วยงานสำคัญต่าง ๆ ตลอด 5 วันในหลายเมืองของไต้หวัน ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม 2568 ได้นำมาซึ่งมุมมองใหม่และแนวทางที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม รายละเอียดของสถานที่ที่ไปเยี่ยมชมและบทเรียนที่ได้รับมี ดังนี้
1. National Formosa University (NFU) เมืองหยุนหลิน
National Formosa University (NFU) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของไต้หวัน จุดเด่นของ NFU อยู่ที่ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมอาหาร และระบบอัตโนมัติ โดยเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ระหว่างศาสตร์เชิงทฤษฎีและการปฏิบัติจริงอย่างเข้มข้น ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคอุตสาหกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบการพัฒนา NFU มีนโยบายให้อาจารย์ผู้สอนต้องมีประสบการณ์ทำงานในภาคอุตสาหกรรมก่อนจึงจะสามารถเข้ารับการบรรจุในตำแหน่งได้ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีระบบสนับสนุนการให้บริการภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร และบริการวิเคราะห์คุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเกษตรด้วยเครื่องมือขั้นสูงที่รองรับมาตรฐานสากล อีกหนึ่ง
2.Derlian Biotech Corp.
Derlian Biotech เป็นบริษัทไบโอเทคโนโลยีที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงเห็ดสมุนไพรทางยาระดับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ Cordyceps militaris และ Antrodia cinnamomea ซึ่งเป็นเห็ดสมุนไพรพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในไต้หวัน บริษัทมีเทคโนโลยีเฉพาะในการควบคุมสภาวะการเพาะเลี้ยงเพื่อเพิ่มปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และมีเครื่องมือขั้นสูง เช่น เครื่องฟรีซดรายระดับอุตสาหกรรม รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ อย่างครบวงจร Derlian ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีพื้นฐานจากข้อมูลวิทยาศาสตร์ และการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดอย่างชัดเจนเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ผู้สูงอายุและกลุ่มรักสุขภาพ บริษัทมีรูปแบบธุรกิจที่ผสานการวิจัย การเพาะเลี้ยง และการผลิตเชิงพาณิชย์เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ รวมถึงมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมอาหารฟังก์ชันของไทยให้มีความยั่งยืนและแข่งขันได้ในตลาดโลก การเยี่ยมชมครั้งนี้ช่วยให้ศูนย์ฯ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือกับ Derlian ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การทดลองสูตรในระดับกึ่งอุตสาหกรรม และการผลิตในรูปแบบ OEM โดยใช้วัตถุดิบจากประเทศไทย รวมถึงการร่วมวิจัยด้านประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ในตลาดสุขภาพระดับนานาชาติ
3.Chiayi Industrial Innovation Center (CIIC), เมือง Chiayi
ศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมเจียอี้ (Chiayi Industrial Innovation Center: CIIC) เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน (Ministry of Economic Affairs: MOEA) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในภูมิภาคกลางและใต้ของประเทศไต้หวันให้สามารถยกระดับกระบวนการผลิต พัฒนานวัตกรรมสินค้าอาหาร และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน CIIC ได้รับงบประมาณจากภาครัฐในการก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานในระยะแรก และในระยะต่อมาได้ดำเนินงานแบบพึ่งพาตนเองผ่านการให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรมและการดำเนินโครงการวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐ CIIC มีแนวทางในการสร้าง “Innovation Ecosystem” ในระดับท้องถิ่น โดยบูรณาการภาคการศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐ เพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือ เทคโนโลยี และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรแกรมฝึกอบรม การให้คำปรึกษาเชิงลึก การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทดสอบมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้า การทดลองผลิตในระดับอุตสาหกรรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี (ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ SME หลายแห่งเพื่อป้องกันการผูกขาด) รวมถึงการประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ที่น่าสนใจคือ CIIC ยังมีศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพกับอาสาสมัครแบบครบวงจร ซึ่งสามารถใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบทดสอบผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันในบริบทของไทย
การเยี่ยมชม CIIC เปิดโอกาสให้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฟังก์ชันฯ เห็นถึงแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุน SME อย่างมีประสิทธิภาพ ศูนย์ฯ สามารถต่อยอดความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมนวัตกรรมในผู้ประกอบการท้องถิ่น การพัฒนาแพลตฟอร์มบ่มเพาะนวัตกรรมร่วมระหว่างไทย–ไต้หวัน การแลกเปลี่ยนนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ หรือทีมพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนการร่วมกันจัดกิจกรรมเร่งรัดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (product accelerator program) และการส่งเสริมการวิจัยเพื่อสร้างมาตรฐานสากลในผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาเชิงนโยบายที่สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจระดับชาติของ MOEA ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ศูนย์ฯ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบนโยบายและกลไกการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารมูลค่าสูงในประเทศไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
4. Magical Mushrooms Tribe (MMT), เมือง Changhua
Magical Mushroom Tribe (MMT) เป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยกลุ่มนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในการพัฒนาเห็ดเป็นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ทั้งในรูปแบบอาหารเสริม เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จุดเด่นของ MMT อยู่ที่การผสมผสานเทคโนโลยีชีวภาพกับการเล่าเรื่อง (storytelling) เพื่อสร้างแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์ในตลาดสินค้าพรีเมียม พร้อมทั้งใช้ระบบการเพาะเลี้ยงเห็ดแบบควบคุมปิดที่มีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ช่วยควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างแม่นยำ MMT ยังพัฒนาฟาร์มให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเห็ดและสินค้าท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบ และเปิดร้านอาหารภายในฟาร์มโดยใช้เห็ดจากการเพาะเลี้ยงเป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญด้านการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบท้องถิ่นผ่านนวัตกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ และการทำตลาดอย่างสร้างสรรค์ ทั้งยังขยายตลาดไปยังต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์และงานแสดงสินค้า ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงโมเดลธุรกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับวิสาหกิจชุมชนในไทยได้อย่างเหมาะสม
จากการเยี่ยมชมในครั้งนี้ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฟังก์ชันฯ สามารถต่อยอดความร่วมมือกับ MMT ได้ในหลายมิติ เช่น การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงเห็ดสมุนไพรในระบบปิด การพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากเห็ดร่วมกัน การถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูป การออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการร่วมกันออกแบบแบรนด์และสร้างเรื่องราวผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดพรีเมียมทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถจัดกิจกรรมฝึกอบรมหรือศึกษาดูงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาทักษะให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการยกระดับสินค้าชุมชนให้มีนวัตกรรมและคุณค่าเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงกับสมาคมนักวิจัยและเพาะเลี้ยงเห็ดแห่งประเทศไทย เพื่อขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน รวมถึงสามารถบูรณาการกับโครงการ SAI (Sustainable Agro-Industry) ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนผ่านแนวทาง BCG Economy ซึ่งจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเห็ดไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลในระยะยาว
5. Grape King Bio Ltd., Longtan Science Park, เมือง Taoyuan
Grape King Bio เป็นบริษัทไบโอเทคขนาดใหญ่ของไต้หวันที่ก่อตั้งในปี 1969 โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตโพรไบโอติกส์ อาหารเสริม และเครื่องดื่มสุขภาพในระดับอุตสาหกรรม มีโรงงานผลิตและศูนย์วิจัยที่ทันสมัย พร้อมสิทธิบัตรด้านจุลินทรีย์และการหมักจำนวนมาก จุดเด่นของ Grape King Bio คือการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพอย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับสากล (GMP, ISO, HACCP) โดยมีศูนย์ R&D ที่วิจัยจุลินทรีย์กว่า 50 ชนิด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ระบบทางเดินอาหาร ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพองค์รวม อีกทั้งยังมีการทดสอบทางคลินิกและเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในกลุ่มโพรไบโอติกส์ พรีไบโอติกส์ และผลิตภัณฑ์จากเห็ดหรือสมุนไพรพื้นถิ่น
จากการเยี่ยมชมในครั้งนี้ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฟังก์ชันฯ ได้หารือแนวทางความร่วมมือกับ Grape King Bio ในหลากหลายด้าน ทั้งการจัดหลักสูตรร่วมโดยเชิญวิทยากรจาก Grape King มาให้ความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการหมักและกระบวนการผลิตจุลินทรีย์ในระดับอุตสาหกรรม และการแลกเปลี่ยนนักวิจัยหรือบุคลากรเพื่อเพิ่มพูนทักษะเชิงเทคนิคและความเข้าใจในบริบทสากล ทั้งนี้ ความร่วมมือยังสามารถต่อยอดไปสู่การ ปรับเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น (Tech Localization) เช่น การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์กับวัตถุดิบไทย การปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับระดับของผู้ประกอบการไทย พร้อมทั้งร่วมกันวางแผน กระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Tech Transfer) และ การขยายกำลังการผลิต (Scale-up) ผลิตภัณฑ์ในระดับกึ่งอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เข้มแข็ง ยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารสุขภาพในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน
6. Food Industry Research and Development Institute (FIRDI), เมือง Hsinchu
FIRDI ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเศรษฐกิจและ National Science and Technology Council ของไต้หวัน โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีอาหาร การวิเคราะห์คุณภาพ และการผลักดันนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ FIRDI ทำหน้าที่เป็นกลไกกลางเชื่อมโยงงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรม ให้บริการตั้งแต่การวิจัยพัฒนา การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (pilot scale) การให้คำปรึกษาด้านการขออนุญาตผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การหมักเชิงลึกและ microencapsulation รวมถึงเป็นศูนย์เก็บรักษาสายพันธุ์จุลินทรีย์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอาหารฟังก์ชัน แนวทางของ FIRDI ถือเป็นต้นแบบของ Innovation Infrastructure ที่ไทยสามารถนำมาปรับใช้เพื่อผลักดัน Functional Food สู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม
ในการหารือร่วมกันระหว่างศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฟังก์ชันฯ กับ FIRDI ได้มีการวางแนวทางความร่วมมือในอนาคตหลายมิติ เช่น การแลกเปลี่ยนนักวิจัยและบุคลากรเพื่อยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยีอาหาร การถ่ายทอดเทคโนโลยี (tech transfer) และการขยายกำลังการผลิต (scale-up) จากห้องปฏิบัติการสู่ระดับอุตสาหกรรม การปรับเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับบริบทไทย (tech localization) ตลอดจนการร่วมกันพัฒนามาตรฐานการผลิตและระบบการทดสอบผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล รวมถึงการออกแบบ ecosystem ด้านอาหารฟังก์ชัน ระบบการขอ health claim และการขึ้นทะเบียน positive list ที่ FIRDI มีประสบการณ์สนับสนุนภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือเหล่านี้จะช่วยยกระดับความสามารถของไทยในด้านเทคโนโลยีและการกำกับดูแลอาหารสุขภาพให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล





